“บทบาทของความเป็นพระราชธิดาที่น่ารัก ไม่ว่าจะเป็นภาพที่เห็นปรากฏอยู่ในพระบรมฉายาลักษณ์ของพระราชวงศ์ หรือภาพจากการตามเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรตามที่ต่างๆ ทั้งหมดล้วนสื่อให้เห็นถึงพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีจากพระชนกและพระชนนีอันเป็นที่รักของพระองค์”
ภาค 5 : ลูกสาวของพ่อ
เหตุการณ์น่าประทับใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นความห่วงใยและความปรารถนาดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อพระราชธิดาของพระองค์ก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ปี พ.ศ.2547 ในวันนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระเทพฯ มีใจความว่า
ลูกพ่อ
ในพื้นแผ่นดินนี้ ทุกสิ่งเป็นของคู่กันมาโดยตลอด มีความมืดและความสว่าง ความดีและความชั่ว ถ้าให้เลือกในสิ่งที่ตนชอบแล้ว ทุกคนปรารถนาความสว่าง ปรารถนาความดีด้วยกันทุกคน แต่ความปรารถนานั้นจักสำเร็จลงได้ จักต้องมีวิธีที่จักดำเนินให้ไปถึงความสว่าง หรือ ความดีนั้น ทางที่จักต้องไปให้ถึงความดีก็คือรักผู้อื่นจักเกิดขึ้นได้
พ่อขอบอกลูกดังนี้…
- ขอให้ลูกมองผู้อื่นว่า เป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนแก่ เพื่อนเจ็บ เพื่อนตายด้วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ว่าอดีต… ปัจจุบัน…อนาคต
- มองโลกในแง่ดี และจะให้ดียิ่งขึ้น ควรมองโลกจากความเป็นจริง อันจักเป็นทางแก้ปัญหาอย่างถูกต้องและเหมาะสม
- มีความสันโดษ คือ
- มีความพอใจเป็นพื้นฐานของจิตใจ พอใจตามมีตามได้คือได้อย่างไร ก็เอาอย่างนั้น ไม่ยึดติด ขอให้คิดว่ามีก็ดี ไม่มีก็ได้ พอใจตามกำลัง คือมีน้อยก็พอใจตามที่มีน้อย
- พอใจตามสมควร คือทำงานให้มีความพอใจเหมาะสมแก่งาน
- ให้ดำรงชีพให้เหมาะสมแก่ฐานะของตน
- มีความมั่นคงแก่จิต คือให้มองโทษของความเกียจคร้าน และมองเห็นคุณประโยชน์ของความเพียรและเมื่อเกิดสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาให้ภาวนาว่า…มีลาภ มียศ สุขทุกข์ปรากฏ สรรเสริญ นินทา เสื่อมยศ เสื่อมลาภ เป็นกฎธรรมดา อย่ามัวโศกานึกว่า ‘ชั่งมัน’
นี่คือคำสอนที่กลั่นออกมาจากหัวใจของผู้เป็นพ่อสู่ลูกได้อย่างลึกซึ้งยิ่ง และเป็นโชคดีที่สุดของคนไทย ที่ต่อมาสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้นำมาเผยแพร่ เพื่อเป็นการแบ่งปันข้อคิดดี ๆ แก่ประชาชนของพระองค์ต่อไป โดยสมเด็จพระเทพฯ มีพระราชปรารภทิ้งท้ายจดหมายนั้นเอาไว้ว่า
ฉันหวังว่า คำสอนพ่อที่ฉันได้ประมวลมานี้จะเกิดประโยชน์
แก่ท่านผู้อ่านที่ได้พบเห็น และลูกอันเป็นที่รักของพ่อทุกคน
ฉันรักพ่อฉันจัง
สิริธร
ด้วยแนวสอนดังกล่าว จึงไม่น่าแปลกใจแต่ประการใดที่ “ลูก”คนนี้จะมีพระจริยวัตรอันงดงาม และเป็นที่ชื่นชมในหมู่พสกนิกร มาโดยตลอด เพราะไม่เพียงแต่การถึงพร้อมซึ่งพระปรีชาสามารถอันหลายหลากเท่านั้น หากการประกอบพระราชกรณียกิจทุกครั้ง ล้วนเป็นที่ประจักษ์แก่ใจประชาชนถึงการยึดมั่นไว้ซึ่งหลัก 4 ประการ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงสอนสั่งทั้งสิ้น
และทั้งหมดนี้ก็สะท้อนอยู่ในทุกๆชิ้นงาน และทุกๆบทบาทของเจ้าหญิงผู้ป็นดั่งเทพธิดาประจำใจของคนไทยทั้งมวล…
- * คัดลอกมาจาก บทความเรื่อง “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เทพธิดาในดวงใจไทยทั้งผอง” โดย พีรภัทร โพธิสารัตนะ นิตยสารซีเคร็ต ปีที่ 4,ฉบับที่ 90 (2555):หน้า 25