สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระนามเดิมของพระองค์ คือสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรง สุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร
บุคคลต้นแบบ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2498 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ได้รับพระราชทานพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์
เมื่อปี พ.ศ. 2501 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเริ่มเข้ารับการศึกษาระดับอนุบาลที่โรงเรียนจิตรลดา ซึ่งตั้งอยู่ภายในพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต และทรงศึกษาต่อในโรงเรียนจิตรลดาจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและ ในปี พ.ศ. 2515 ก็ทรงสอบไล่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในแผนกศิลปะ ด้วยคะแนนสูงสุดของประเทศ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระอัจฉริยภาพอย่างสูงในด้านภาษา การดนตรี ทั้งในการบรรเลง การขับร้อง และการประพันธ์เนื้อร้อง ด้วยพระปรีชาสามารถเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนทั่วไป
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำรัสเรื่องฝนหลวงครั้งแรกตั้งแต่ ปี 2498 หรือกว่า 60 ปีก่อน ในครั้งนั้นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปทางภาคอีสาน ทรงแหงนดูท้องฟ้าพบเมฆจำนวนมาก แต่พัดผ่านไปไม่ตกลงมาเป็นฝน จึงมีพระราชดำริเรื่องวิธีแก้ไขความแห้งแล้งในท้องถิ่นทุรกันดารว่า จะต้องหาวิธีทำให้เมฆตกลงมาเป็นฝน
หากศึกษาถึงพระราชกรณียกิจมากมายที่ครอบคลุมศาสตร์ในหลายลักษณะต่างสาขา แสดงถึงพระปรีชารอบด้าน สายพระเนตรอันยาวไกล คติธรรมและะหลักความเป็นเหตุเป็นผลในการทรงงาน ซึ่งก่อผลอเนกอนันต์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ยังทรงส่งเสริมทำนุบำรุงในด้านศิลปวัฒนธรรม อันถือเป็นรากฐานสำคัญต่อความเจริญทางจิตใจของมนุษยชาติอีกด้วย
ตลอดช่วงเวลาการครองราชย์ 70 ปี ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เปรียบเสมือนดั่งพ่อผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ พระองค์ทรงทุ่มเทพระราชฤทัยและพระวรกายเพี่อที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ทัดเทียมนานาอารยประเทศ โดยมิทรงละทิ้งเอกลักษณ์และภูมิปัญญาอันล้ำค่าที่มีอยู่คู่แผ่นดินไทย ด้วยน้ำพระทัยที่พร่างพรมไปทั่วทุกหลังคาเรือน และพระปรีชาสามารถ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ตลอดระยะเวลาแห่งการปกครองแผ่นดินโดยธรรมเช่นนี้
ด้วยความห่วงใยในทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์ นับตั้งแต่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
พระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชกรณียกิจที่สร้างคุณประโยชน์นานัปการให้กับพสกนิกรชาวไทยให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์เสมอมา
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงสนพระราชหฤทัยในด้านการศึกษา และทรงยึดมั่นในคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “ปัญญาทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์” สติปัญญาเกิดขึ้นได้ด้วยการศึกษาหาความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการอ่านหนังสือ และทรงตรัสว่า “การศึกษาทำให้คนมีศักดิ์ศรี”
ฉันเดินตามรอยเท้าอันรวดเร็วของพ่อโดยไม่หยุด ผ่านเข้าไปในป่าใหญ่ น่ากลัว ทึบ แผ่ไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด มืด และกว้าง มีต้นไม้ใหญ่ใหญ่เหมือนหอคอยที่เข้มแข็ง พ่อจ๋า…ลูกหิวจะตายอยู่แล้วและเหนื่อยด้วย ดูซิจ๊ะ…เลือดไหลออกมาจากเท้าทั้งสองที่บาดเจ็บของลูก ลูกกลัวงู เสือ และหมาป่า
ภาพแห่งความประทับใจของคนไทยทั้งชาติ ได้ปรากฏแก่สายตาพสกนิกรเรื่อยมา นับแต่พระองค์ ทรงครองราชย์ แต่มีภาพแห่งความประทับใจของคนไทยทั้งชาติที่มิลืมเลือน และได้รับการยอมรับเป็น ภาพประวัติศาสตร์ภาพหนึ่ง ได้แก่ เมื่อคราวที่พระองค์เสด็จเยี่ยมราษฎรภาคอีสานเป็นครั้งแรก
พระผู้เป็นภาพลักษณ์ของนักการศึกษาตลอดชีวิต (ตอนที่ 2)
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตระหนักถึงความจำเป็นที่มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาย่อมจะต้องแสวงหาความรู้หรือการศึกษาทุกรูปแบบ เพื่อให้ได้มาซึ่ง “ปัญญา” ที่สามารถนำมาใช้ในการแก้ปัญหาที่เป็นต้นเหตุแห่ง “ทุกข์” ได้
“พระเทพฯรักคนลาว เป็นห่วงคนลาว เข้าใจคนลาว ช่วยเหลือคนลาว ไม่เคยดูถูกคนลาว ท่านเป็นคนที่ดีมากๆ”
บทบาทของความเป็นพระราชธิดาที่ น่ารัก ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ปรากฏอยู่ในพระบรมฉายาลักษณ์ของพระราชวงศ์
พระอริยาบถหนึ่งซึ่งเป็นที่จดจำและได้รับการบันทึกเป็นพระบรมฉายาลักษณ์จำนวนมาก
สมเด็จพระเทพฯ ทรงรักและมีความชำนาญเป็นอย่างมาก คืองานศิลปวัฒนธรรมด้านดนตรีไทย