สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี เทพธิดาในดวงใจไทยทั้งผอง
แรกทีเดียวสมเด็จพระเทพฯ ทรงรู้สึกเกรงกลัวการทรงดนตรีไทยอยู่นาน สืบเนื่องจากเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์เคยพยายามเข้าไปตีระนาดเล่น หากโดนห้ามเอาไว้และเตือนว่าเครื่องดนตรีไทยนั้นเป็นของสูง เป็นของครูบาอาจารย์ จึงไม่สามารถทำเล่นๆ เหมือนเช่นเครื่องดนตรีสากลได้ เพราะอาจถูกครูบันดาลให้มีอันเป็นไป พระองค์จึงมิได้ทรงเครื่องดนตรีไทยอีกถึงแม้ว่าจะทรงอยากเรียนเป็นอย่างยิ่งก็ตาม
ภาค 3 : เจ้าหญิงนักดนตรี
ครั้นเวลาผ่านไปหลายปี พระองค์จึงทรงมีโอกาสเริ่มหัดดนตรีไทยในขณะที่ทรงศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนจิตรลดา โดยทรงเลือกซอด้วงเป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรก ด้วยทรงมีซออยู่แล้ว ก่อนที่จะทรงเริ่มเรียนระนาดเอกอย่างจริงจัง เมื่อปี พ.ศ. 2528 หลังจากที่ได้เสด็จฯเพื่อทรงดนตรีไทย ณ บ้านปลายเนิน ซึ่งเป็นวังของ สมเด็จพระเจ้า-บรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ โดยมีครู สิริชัยชาญ ฟักจำรูญ เป็น พระอาจารย์
ช่วงนั้น ทุกวันภายหลังจากตื่นบรรทมแล้ว พระองค์ทรงทำการบ้านด้วยการไล่ระนาดทุกเช้า จนกระทั่งปีถัดมาพระองค์จึงทรงบรรเลงระนาดเอกร่วมกับครูอาวุโส ของวงการดนตรีไทยหลายท่านต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรก ในงานดนตรีไทยอุดมศึกษาครั้งที่ 17 ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเพลงที่ทรงบรรเลง คือ เพลง นกขมิ้น (เถา)
นับจากนั้นมา การทรงดนตรีไทยก็กลายเป็นงานอดิเรกที่สมเด็จพระเทพฯ ทรงโปรดปรานเรื่อยมา และได้ทรงดนตรีไทยในวาระต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ งานปิดภาคเรียนของโรงเรียน งานวันคืนสู่เหย้าโรงเรียนจิตรลดา ฯลฯ จวบจนทรงเข้าศึกษาที่คณะอักษาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พระองค์ก็ทรงเข้าร่วมชมรมดนตรีไทยของสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคณะอักษรศาสตร์ โดยทรงซอด้วงเป็นหลัก และต่อมาก็ทรงหัดเล่นเครื่องดนตรีไทยชิ้นอื่นอีกหลายชิ้น
นอกจากดนตรีไทยแล้ว พระองค์ยังโปรดดนตรีสากลด้วย โดยทรงเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่พระชนมายุ 10 พรรษา แต่ทรงเลิกเรียน หลังจากนั้น 2 ปี ก่อนที่จะฝึกเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่าจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนสามารถทรงทรัมเป็ดนำวงดุริยางค์ในงานกาชาดคอนเสิร์ตมาแล้วด้วย จนเป็นที่ยอมรับในพระปรีชาสามารถในวงกว้าง
ด้วยความรักในด้านการทรงดนตรีนี้เอง ทำให้พระองค์ทรงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริม อนุรักษ์ และทรงให้การอุปถัมภ์งานด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศ ผ่านทางพระราชกรณียกิจจำนวนมาก จนได้รับการถวายพระสมัญญาว่า “เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย” และ “วิศิษฏ-ศิลปิน” ในเวลาต่อมา
อ้างอิง
- * คัดลอกมาจาก บทความเรื่อง “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เทพธิดาในดวงใจไทยทั้งผอง” โดย พีรภัทร โพธิสารัตนะ นิตยสารซีเคร็ต ปีที่ 4, ฉบับที่ 90 (2555) : หน้า 23