Facebook
Twitter
โดย ที่ปรึกษาพจมาน พงษ์ไพบูลย์
ตามที่ได้ทราบกันมาตั้งแต่วันแรกแล้วว่าโครงการนี้ดำเนินงานมาย่างเข้าปีที่ 16 เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติในสมัยนั้น และปัจจุบันคือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ปรับเปลี่ยนผู้รับผิดชอบมาโดยลำดับ ปัจจุบันโครงการและกิจกรรมนี้อยู่ที่สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษาของสพฐ. ตัวดิฉันเองก็เป็นอดีตผู้อำนวยการและเป็นอดีตที่ปรึกษาและยังเป็นที่ปรึกษาอยู่จนปัจจุบัน ก็เลยได้พบเจอกันบ่อยหน่อย เพราะช่วงนี้ปลายปีงบประมาณผู้ใหญ่ ก็ติดราชการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต้องขอขอบคุณทางมูลนิธิฯ และคณะครูทุกท่านที่ยังอยู่ยั้งยืนยงจนทุกวันนี้
สิ่งที่อยากจะบอกให้ทราบว่า เราควรจะเตรียมตัวอย่างไรในการดำเนินงานนี้ ก่อนอื่นสิ่งที่ท่านเป็นกังวลมากก็ คือ เรื่องการเบิกค่าใช้จ่าย ซึ่งบางโรงเรียนยังเบิกไม่ได้ก็ขอให้จดเอาไว้ว่า หนังสือแจ้ง เรื่องการจัดสรรงบประมาณโครงการเยาวชนคนดี รู้คุณแผ่นดิน ปี 2557 โรงเรียนเครือข่ายมูลนิธิยุวทูตความดี เป็นหนังสือที่ ศธ.04008/ว441 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 อันนั้นในส่วนที่สพฐ.จัดสรรงบประมาณให้ทั้งในส่วนของผู้ที่จะเดินทางมาก็ไปอ้างถึงหนังสือนี้ที่เขตก็จะมีเงินไปรอที่เขต อาจจะขาดตกบกพร่องไปบ้างเพราะเราอาศัยการคำนวณ การประมาณการโดยที่พยายามให้ใกล้เคียงที่สุดโดยใช้พาหนะรถยนต์เป็นหลัก เพราะสพฐ.จะถูกมาตรการประหยัดของสำนักงานงบประมาณ ถ้าไม่จำเป็นไม่ให้นั่งเครื่องบิน เพราะฉะนั้นก็ต้องถัวเฉลี่ยกันไป ต้องขอขอบคุณท่านผู้บริหารอาจจะจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งด้วยตนเองที่ให้คณะครูได้มาถึงที่นี่กันอย่างเรียบร้อยดี
ในส่วนของการดำเนินโครงการท่านจะควรเตรียมตัวอย่างไร อย่างที่ทราบกันตั้งแต่วันแรกแล้วว่า วัตถุประสงค์ความเป็นมาแล้วเราก็ได้แรงบันดาลใจจากพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเทพรัตน์ และในส่วนที่ท่านรัฐมนตรีช่วยเองได้ระบุว่านโยบายของรัฐบาลในข้อที่ 2.4 ซึ่งคิดว่าได้แจกกันไปหมดแล้วว่ามีส่วนใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรง แล้วก็ในเรื่องของค่านิยม 12 ประการ ที่ท่านผู้อำนวยการ ดร.พิธาน พื้นทอง ท่านได้พูดไปแล้ว ที่น่าคิดอย่างยิ่ง คือ การท่องได้ไม่ได้เป็นข้อสรุปว่าเราเป็นคนดี เป็นเด็กดี เพราะฉะนั้นการท่องได้นั้นต้องนำไปสู่การปฏิบัติได้ด้วย ใน 12 ข้อนั้นก็จะ เติมเต็มในส่วนต่าง ๆ ที่ยังบกพร่องไป และในขณะเดียวกันก็จะเติมเต็มและสอดประสานกับความเป็นเยาวชนคนดีของโครงการของมูลนิธิยุวทูตความดีนี้เช่นกัน
เมื่อกลับไปจากนี้แล้วท่านควรทำอย่างไรบ้าง ท่านก็จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมในเรื่องของการเข้าร่วมกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น การเข้าค่าย การเหย้าเยือน ทั้งครูและนักเรียน การเข้าค่ายเป็นการเตรียมความพร้อมไม่ใช่การแข่งขัน เมื่อการได้รับคัดเลือกนั้นอาจจะเป็นเด็กซึ่งไม่ใช่ลูกศิษย์ของท่านและคุณครูที่ไปดูแลเด็กนั้นอาจจะไม่ได้เป็นคุณครูในโรงเรียนเดียวกัน อันนั้นจะเกิดข้อคับข้องใจนิดหน่อยระหว่างคุณครูกับผู้ปกครองที่เคยเจอมาแล้วนั่นก็คือผู้ปกครองรู้สึก ไม่สบายใจว่า คุณครูของลูกตัวเองไม่ได้ไปด้วยและคุณครูก็รู้สึกว่าเราได้ไปแต่เด็กเราไม่ได้ไป แต่ดิฉันไม่ห่วงในเรื่องของความเป็นครู สามารถดูแลเด็กได้ทันที ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เด็กที่ท่านสอนมากับมือ แต่เด็กนั้นจะต้องปรับตัวนิดหน่อย เตรียมตัวในการเข้าค่ายเป็นการเตรียมพร้อมว่า เมื่อเด็กมีโอกาสไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก การนอนโรงแรมครั้งแรก การปูเตียงอย่างไร การใช้น้ำอุ่นน้ำเย็นอย่างไร การรับประทานอาหารอย่างไรในห้องอาหารที่เป็นสากล ยังดีที่ยังเป็นเอเชียยังใกล้ ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่เราเจอคือ เด็กไม่สบาย เด็ก homesick คิดถึงบ้าน บางคนมีคู่แฝดแฝดน้องไปแฝดพี่ไม่ได้ไปเด็กก็จะร้องไห้ หรือบางคนก็จะคิดถึงคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยายร้องไห้งอแง รับประทานอาหารของเค้าไม่ได้อันนี้คุณครูนี่จะทำงานหนักมากซึ่งดิฉันก็ขอชื่นชมและคิดว่าในรุ่นต่อไปก็คงจะมีแบบนี้จึงถือเป็นการเตรียมตัว ประการต่อมา คือ ท่านต้องฝึกตนเองให้เป็นแบบอย่าง เป็นต้นแบบกับเด็ก ๆ เสียก่อน ในการที่เป็นต้นแบบของการเป็นคนดีรู้คุณแผ่นดิน ในฐานะของผู้บริหาร ในฐานะของครูผู้สอน ในฐานะของผู้รับผิดชอบโครงการ
ข้อต่อไป อยากให้ท่านตระหนักถึงภารกิจภาระหน้าที่ของการเป็นยุวทูตไม่ได้เป็นแค่ท่านมาอบรมที่นี่แล้ว กลับไปเท่านั้น ความดีเหล่านี้ การเป็นต้นแบบเหล่านี้เป็นสิ่งที่ท่านทำอยู่แล้วเป็นปกติเพียงแต่ว่าเราเติมเงื่อนไขให้ความ เข้มข้นเพิ่มขึ้น เป็นการที่เปิดโลกทัศน์ของท่านมีโอกาสที่จะมาทำงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเป็นอีกมิติหนึ่ง ขณะเดียวกัน ดิฉันก็เห็นใจว่าบางโรงเรียนนั้นเป็นหนึ่งโรงเรียนร้อยป้าย คือ ร้อยโครงการ ร้อยกิจกรรม ของกระทรวงสาธารณสุข ของกระทรวงมหาดไทย ของสพฐ.เองก็ 10 สำนักเข้าไปแล้ว สำนักวิชาการ สำนักพัฒนานวัตกรรม สำนักแผน สำนักกิจกรรมนักเรียน แต่ก็ขอให้ท่านรับของมูลนิธินี้เป็นอีกโครงการหนึ่งซึ่งดิฉันเชื่อว่าไม่เกินความสามารถที่ท่าน จะบูรณาการได้ในเรื่องของความเป็นคนดี มันจะสอดแทรกอยู่ทุกกลุ่มสาระ แล้วก็เริ่มนับตั้งแต่วันนี้ในเรื่องของฝึกตนเองเพื่อที่จะเป็นต้นแบบของเด็กในเรื่องของการเป็นคนดีตลอดชีวิต ต้นแบบของการเป็นครูและเกษียณอายุไปแล้วก็ยังเป็นคุณครูที่ดีที่เป็นปูชนียบุคคล เป็นตัวแทนของประเทศเมื่อต้องออกไปเป็นผู้แทนของเยาวชนต้นแบบ ศึกษาระเบียบวินัย เคารพกติกาและกฏหมาย รู้หน้าที่ตามวัยอันควรแต่ละช่วงเวลานั้น ๆ นี่คือสิ่งที่อยากจะขอฝากไว้
สุดท้าย ดิฉันเคยเขียนกลอนไว้ให้เด็กแต่คิดว่าคุณครูก็น่าจะใช้ได้ ก็ขอจบลงด้วยบทกวีของตัวเองนะคะ
เด็กน้อย จงค่อยเรียนรู้ คำครูสอน
ศึกษา จำจด ทุกบทตอน
ยามเป็น ไม้อ่อน ในวัยเยาว์
โลกนี้กว้างไกล ยิ่งใหญ่นัก
ใครเลย จะปกปัก รักษาเจ้า
มีแต่สมอง และสองมือเรา
ที่จะเข้าชิงชัยในชีวิต
เธอคือ ความเรืองรอง ของพรุ่งนี้
คือประทีป ของชีวี ที่ศักดิ์สิทธิ์
คือแสงทอง ส่องประกาย ในนิมิต
คือความคิด คืออนาคต อันงดงาม
ตัวอย่างที่เห็น และเป็นอยู่
เธอจงดู จงจำ ตอบคำถาม
รู้ความหมาย ของความดี ที่นิยาม
ก่อนย่างเท้า ก้าวตาม ความเป็นจริง
*ถอดความจากการบรรยายพิเศษในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการเยาวชนคนดี รู้คุณแผ่นดิน ปี 2557
