คำกล่าวเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการต้นกล้าความดี ตามวิถีพอเพียง

ฯพณฯ ดอน ปรมัติถ์วินัย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

โครงการยุวทูตความดี เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนมายุครบ 72 พรรษา ในปี พ.ศ. 2542 และมีการดำเนินการต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน ยาวนานกว่า 19 ปี

หลังจากได้ฟังพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาเมื่อหลายปี ก่อนหน้าปี พ.ศ. 2542 ที่ทรงมีต่อข้าราชการ นักการเมือง และประชาชนทั่วไป ใจความสำคัญคือ พระองค์ทรงมีความห่วงใยในเรื่องน้ำใจ วินัย ความซื่อสัตย์ การไม่รู้จักแบ่งปัน และขาดความสามัคคีของคนไทย เมื่อรัฐบาล ขอให้ทุกหน่วยงานเสนอโครงการเทิดพระเกียรติฯ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จึงเห็นว่าหากจะทำโครงการถวายก็ควรเป็นสิ่งที่มีพระราชประสงค์ ซึ่งก็คือปัญหาบ้านเมือง และปัญหาของคน และจะทำอย่างไรให้เกิดความหมายสูงสุด จึงเห็นว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการปลูกฝังเด็กและเยาวชน

ในฐานะกระทรวงการต่างประเทศที่มีโอกาสได้เห็นโลก จะพบว่าทุกประเทศล้วนแข่งขันกันเรื่องเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันบ้านเมืองก็ต้องการเสถียรภาพ และความสงบเรียบร้อยด้วย ซึ่งประเทศใดมีมากก็จะสามารถพัฒนาบ้านเมืองไปได้ดี ทั้งนี้เมื่อบ้านเมืองสงบ สิ่งที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดคือ ต้องมีคนที่มีคุณภาพให้มากที่สุด เพราะจะทำให้สามารถแข่งขันได้ ในสังคมที่ทุกประเทศต้องเดินไปข้างหน้า เราต้องการให้ต้นกล้าของเรา ซึ่งก็คือเด็กและเยาวชนมีความแข็งแกร่ง มั่นคง พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ในวันข้างหน้า

เราต้อง “ปลูกจิตสำนึก ฝึกจิตอาสา พัฒนาโลกทัศน์” เพื่อให้เด็กและเยาวชนใช้โอกาสที่มีให้เต็มที่ที่สุดและรอบรู้เรื่องต่าง ๆ ของโลก แต่เก่งอย่างเดียวไม่ได้ คิดถึงแต่ตนเองไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีจิตสำนึกก็จะเกิดปัญหากับผู้อื่น เราไม่ได้เน้นแค่เรื่องการศึกษาและความดี แต่อยากให้เด็กของเรามีความพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลก เพื่อให้ประเทศไทยพร้อมรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้นด้วย เด็กเหล่านี้จะเข้าไปอยู่ ในทุกวงการของประเทศ ซึ่งเชื่อว่าถ้าเราร่วมมือกันอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และกว้างขวาง ก็จะตอบทุกโจทย์ที่สังคมห่วงใย เป็นการเตรียมพร้อม และพัฒนาเยาวชนให้เติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์ ให้เห็นแล้วว่าโครงการนี้ให้ผลตามที่มุ่งหวังอย่างแท้จริง