วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) หนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในฟุกุโอกะ เป็นที่ประดิษฐาน “นันโซอินไดบุตสึ (Nanzoin Daibutsu)” พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวถึง 41 เมตร ความสูง 11 เมตร และหนักถึง 300 ตัน ถูกแกะสลักจากทองสัมฤทธิ์ชิ้นเดียวแล้วหล่อโดยใช้แบบหล่อไล่ขี้ผึ้ง มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเดียวกับรูปปั้นพระใหญ่ที่เมืองนาระและคามาคูระ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2538 เชื่อว่าสร้างขึ้นเพื่อปกป้องชาวฟุกุโอกะจากภัยธรรมชาติและขึ้นชื่อเรื่องการขอพรโชคลาภอีกด้วย
เด็กหญิงวริสา รอดไกร
โรงเรียนบ้านหนองไทร จังหวัดตรัง
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ฟูกูโอกะ (Fukuoka City Science Museum) ศูนย์แสดงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ สร้างสังคมและพื้นที่การเรียนรู้ให้แก่ผู้มาเยือนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เปิดให้เข้าชม เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560 พิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 4 ชั้น โดยมีห้องจัดแสดงนิทรรศการที่ใช้แนวคิด “SCIENCE & CREATIVE FUKUOKA” ที่ให้ความรู้ในทุกแง่มุมของวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่การกำเนิดจักรวาล การกำเนิดสิ่งมีชีวิต แรงโน้มถ่วง ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงโลกอนาคต และโดมเธียร์เตอร์ (ท้องฟ้าจำลอง) เป็นต้น
เด็กชายปภานิจ เรืองเลิศตระกูล
โรงเรียนอนุบาลระยอง จังหวัดระยอง
ศูนย์ป้องกันภัยพิบัติ เมืองฟูกูโอกะ (Fukuoka Citizen’s Disaster Prevention) เป็นศูนย์ความรู้ แนะนำเทคนิค และเพิ่มทักษะเกี่ยวกับการป้องกันภัยพิบัติของเมืองฟุกุโอกะ มีการเฝ้าระวังภัยทางธรรมชาติ ในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไฟไหม้ น้ำท่วม และ แผ่นดินไหว มีการจำลองเหตุการณ์ เหมือนสถานการณ์จริงด้วยภาพ 3 มิติ และให้มีการทดลองบนที่นั่งเสมือนจริง 360 องศา อีกทั้งยังมีการจำลองเหตุการณ์ไฟไหม้ มีขั้นตอนการฝึกใช้เครื่องดับเพลิง การตะโกนให้ประชาชนรอบข้างเข้ามาช่วยเหลือ และแนะนำการหนีภัยจากเหตุไฟไหม้หากไม่สามารถดับ ไฟได้ การจำลองเหตุการณ์น้ำท่วม ข้อระวังในการหลบหนีเอาตัวรอดจากเหตุการณ์น้ำท่วม รวมถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่ให้รู้หลบภัยที่ปลอดภัย และทดลองกับแผ่นดินไหวจริงขนาด 7 ริกเตอร์ ซึ่งเป็นการให้ความรู้กับประชาชนโดยเฉพาะเด็กนักเรียน เมื่อได้มารับความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตได้จริง และเป็นประโยชน์ต่อชีวิตและทรัพย์สินหากเกิดภัยธรรมชาติดังกล่าวขึ้น
เด็กชายฐานนท์ อกนิษฐานนท์
โรงเรียนอนุบาลวัดหนองขุนชาติ (อุทิศพิทยาคาร) จังหวัดอุทัยธานี
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อุมิโนะนากะมิจิ มารีนเวิลด์ (Uminonakamichi Marine World) เป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เป็นจุดรวมปลาสายพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย เกือบ 30,000 ตัว ประมาณ 350 สายพันธุ์ อควาเรียมแบ่งออกเป็น 10 สถานี เลียนแบบระบบนิเวศทางทะเลของเกาะคิวชู มีพื้นที่จัดแสดงโชว์สัตว์น้ำกลางแจ้ง และโชว์ป้อนอาหาร เช่น โลมา ปลาวาฬ นกเพนกวิน ตัวนาค แมวน้ำ
เด็กหญิงดีรดา ธัมมะปาละ
โรงเรียนสฤษดิเดช จังหวัดจันทบุรี
ศาลเจ้าดาไซฟุ (Dazaifu Shrine) เป็นศาลเจ้าสำคัญอันดับหนึ่งของฟุกุโอกะที่ผู้คนนิยมกราบไหว้ ศาลเจ้าแห่งนี้บูชาเทพเจ้าที่มีต้นกำเนิดจากบุคคลจริง ชื่อว่า "ซุกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ" ซึ่งเป็นนักเขียน นักวิชาการ และนักปราชญ์ที่มีตัวตนอยู่จริง ในช่วงปี ค.ศ. 800 – 900 ได้รับการยกย่องจากชาวญี่ปุ่นให้เป็น “เทพเจ้าแห่งการศึกษา” ทำให้มีผู้คนมาขอพรเรื่องการเรียนการศึกษาอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ภายในศาลเจ้า ยังมี สะพานไทโคบาชิ สะพานข้ามสระน้ำสีแดงรูปหัวใจ ท่ามกลางสวนญี่ปุ่นที่ร่มรื่น และเป็นจุดชมดอกบ๊วยที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งด้วย
เด็กหญิงกัญญณัท ออมสิน
โรงเรียนอนุบาลพิจิตร จังหวัดพิจิตร
อุทยานประวัติศาสตร์โยชิโนการิ (Yoshinogari Historical Park) ตั้งอยู่ในจังหวัดซากะ เป็นร่องรอยแหล่งที่อยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในสมัยโบราณ มีพื้นที่ประมาณ 500,000 ตารางเมตร เป็นแหล่งเรียนรู้ที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของผู้คนยุคโบราณของญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่ช่วงเริ่มตั้งรกรากตั้งแต่ ยุคยาโยอิ (Yayoi) ประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นยุคเริ่มต้นของญี่ปุ่น ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ถูกบริหารการจัดการโดยรัฐบาล ในฐานะที่เป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ ที่ทำให้สามารถสัมผัสกับประวัติศาสตร์และความเป็นญี่ปุ่นโบราณได้เป็นอย่างดี
เด็กหญิงวริสา รอดไกร
โรงเรียนบ้านหนองไทร จังหวัดตรัง
สวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Park) จัดสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูที่ชื่อว่า Fat man เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ที่ทำลายเกือบทั้งเมืองและยังมีผู้เสียชีวิตกว่า 80,000 คน ภายในสวนแห่งนี้มีรูปปั้นเกี่ยวกับสันติภาพมากมาย และยังมีบริเวณที่คนนำน้ำมาตั้งเอาไว้เพื่อให้ระลึกถึงผู้เสียชีวิต เนื่องจากก่อนที่พวกเขาจะเสียชีวิต พวกเขามีอาการหิวน้ำเป็นอย่างมาก อีกทั้งทางด้านหลังของสวนจะมีเสาสีดำที่เป็นตัวชี้ตำแหน่งจุดศูนย์กลางของระเบิดปรมาณู และมีรายชื่อของผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นด้วย
เด็กชายปภานิจ เรืองเลิศตระกูล
โรงเรียนอนุบาลระยอง จังหวัดระยอง
พิพิธภัณฑ์ปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum) จัดแสดงเรื่องราว ข้อมูลเหตุการณ์ และซากชิ้นส่วนสิ่งของต่าง ๆ ตั้งแต่ก่อนการถูกถล่มด้วยระเบิดปรมาณูลูกที่ 2 ต่อจากเมืองฮิโรชิม่า จนถึงวินาทีแห่งความหายนะ ซึ่งมีหลักฐานที่ถูกวีดีโอบันทึกไว้ เช่น ภาพถ่ายอาคารบ้านเรือนที่พังยับเยิน ภาพผู้คนล้มตาย หรือผู้ที่รอดชีวิตแต่ต้องทนทุกข์ทรมานจากสารกัมตภาพรังสี อันเป็นเหตุทำให้ญี่ปุ่นยอมยกธงขาวต่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ในอีกหนึ่งสัปดาห์ถัดมา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงเป็นสิ่งเตือนใจให้ผู้คนได้ระลึกถึงความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ในวันที่นางาซากิโดน “Fat Man” ระเบิดปรมาณูที่ใช้เชื้อเพลิงพลูโตเนียมลูกที่ 2 ต่อจากเมืองฮิโรชิม่าถล่ม ผู้คนล้มตาย และผู้ที่รอดชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานจากพิษร้ายของสารพลูโตเนียมไปเกือบทั้งเมือง
เด็กหญิงกัญญณัท ออมสิน
โรงเรียนอนุบาลพิจิตร จังหวัดพิจิตร
ปราสาทคูมาโมโตะ (Kumamoto Castle) สถาปัตยกรรมปราสาทแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ถูกสร้างประมาณปี พ.ศ. 2144 โดยคาโตะ คิโยมาสะ และใช้เวลาในการก่อสร้าง 7 ปีจึงแล้วเสร็จ ด้านนอกของปราสาทมีสีดำน่าเกรงขามและมีกำแพงที่ลาดชัน เพื่อป้องกันการบุกรุกของข้าศึก อีกทั้งยังออกแบบมาพิเศษเพื่อขัดขวางไม่ให้นินจาโจมตีได้ในสมัยก่อน และในอดีตได้เคยถูกใช้เป็นที่พักของขุนนางตระกูลคะโตและตระกูลโฮโซคาวะ ปัจจุบันนี้ได้เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการและข้าวของเครื่องใช้ทางประวัติศาสตร์ในสมัยนั้น
เด็กหญิงดีรดา ธัมมะปาละ
โรงเรียนสฤษดิเดช จังหวัดจันทบุรี
เดจิมะ (Dejima) ย่านเมืองเก่าในจังหวัดนางาซากิ มีลักษณะเป็นเกาะ แต่ว่าไม่ได้เป็นเกาะที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ ถูกสร้างขึ้นช่วงประมาณปี พ.ศ. 2179 แต่ปัจจุบันเดจิมะไม่ได้เป็นเกาะแล้ว เพราะว่ามีการสร้างพื้นที่เชื่อมต่อกับเกาะใหญ่ และภายหลังได้มีการประกาศเป็นเขตอนุรักษ์ ซึ่งเดิมที่ได้สร้างขึ้น เพื่อเป็นที่อาศัยของชาวโปรตุเกตที่เข้ามาทำงานในประเทศญี่ปุ่น ต่อมาเมื่อชาวโปรตุเกสถูกสั่งให้ย้ายออก จึงมีชาวดัชต์ที่เป็นทั้งพ่อค้า และคนงานย้ายเข้ามาอยู่แทน และจากการถูกประกาศเป็นเขตอนุรักษ์ทำให้มีการรักษาความเก่าแก่ของทุก ๆ สิ่งบนพื้นที่นี้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ยังมีอาคารแบบเก่าหลงเหลืออยู่มากมาย ทั้งโกดังเก็บของ บ้านเรือน โรงงานอุตสาหกรรม กำแพง ประตู และยังมีการสร้างและต่อเติมอาคารขึ้นมาเพิ่ม เพื่อรักษารูปลักษณ์ของเมืองให้ดูเหมือนเดิมอีกด้วย
เด็กชายฐานนท์ อกนิษฐานนท์
โรงเรียนอนุบาลวัดหนองขุนชาติ (อุทิศพิทยาคาร) จังหวัดอุทัยธานี