Skip to main content

คณะยุวทูตความดีเยือนบรูไนดารุสซาลาม

ผู้เข้าชม 156

ประเทศบรูไนดารุสซาลาม มีชื่อทางการว่า เนการา บรูไนดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) เนการา แปลว่า ประเทศ ดารุสซาลาม แปลว่า ดินแดนแห่งสันติสุข บรูไนตั้งอยู่ตอนเหนือของเกาะบอร์เนียวซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 743,330 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย รัฐกาลิมันตันของอินโดนีเซีย ครอบคลุมพื้นที่ร้อยละ 73  รัฐซาบาห์และซาราวักของมาเลเซีย ครอบคลุมพื้นที่ร้อยละ 26  และประเทศบรูไน ครอบคลุมพื้นที่ร้อยละ 1 มีพื้นที่ 5,765 ตารางกิโลเมตร มีขนาดประมาณจังหวัดนครพนมของไทย พื้นที่ส่วนใหญ่ในเกาะเป็นป่าร้อนชื้นซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ล้านปี อากาศโดยทั่วไปค่อนข้างร้อนชื้นตลอดทั้งปี และบรูไนมีฝนตกหนักที่สุดในช่วงเดือนตุลาคมถึงมกราคม  และมีฝนตกชุกที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งตอนที่คณะเราไปเยือนบรูไนก็ได้มีฝนตกตลอดทั้งวัน และมีอากาศที่บริสุทธิ์ เพราะบรูไนมีพื้นที่ป่า คิดเป็นร้อยละ 60 ของประเทศเลยทีเดียว

เด็กหญิงลัลนา โพธิละเดา
โรงเรียนวัดป้อมวิเชียรโชติการาม จังหวัดสมุทรสาคร



พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย หรือ พิพิธภัณฑ์แสดงเครื่องราชกกุธภัณฑ์ (Royal Regalia Museum) จัดแสดงนิทรรศการเครื่องราชกกุธภัณฑ์ นิทรรศการเกี่ยวกับพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ ครบรอบ 25 ปี ของพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์  และได้รวบรวมพระราชประวัติการจำลองเครื่องทรง เครื่องใช้ส่วนพระองค์ที่ทรงใช้ในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 25 ปี และ 50 ปี รวมทั้งเครื่องบรรณาการจากผู้นำประเทศต่าง ๆ ที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก

เด็กหญิงชญานิษฐ์ ศรีเริงหล้า
โรงเรียนวัดคูยาง จังหวัดกำแพงเพชร



พิพิธภัณฑ์การเดินเรือทางทะเล ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงนิทรรศการซากเรืออัปปางของบรูไนและซากวัตถุโบราณที่ค้นพบในห้วงสมัยศตวรรษที่ 15 – 16 โดยการสำรวจด้านธรณีฟิสิกส์ของบริษัท เชลล์ ปิโตรเลียม ในปี ค.ศ. 1997 หลังการค้นพบซากวัตถุโบราณ กรมพิพิธภัณฑ์บรูไน ร่วมกับ Départment des Recherches Archeolelogiues Subaquatiques et Sous-Marines (DRASSM) ของฝรั่งเศส ได้ทำการศึกษาวิจัยซากวัตถุโบราณที่ค้นพบกว่า 13,000 ชิ้น และพบว่ามาจากเวียดนาม จีน  และประเทศไทย ที่มาจากสวรรคโลก  สิงห์บุรี และอยุธยา  แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย – บรูไน 400 ปี ล่วงมาแล้ว  และมีการจำลองเกาะตารินดัก (Tarindak Island) เกาะเทียมที่สร้างขึ้นมาใกล้กับเขตโบราณสถานโกตาบาตู เกาะแห่งนี้แสดงให้เห็นว่า ในอดีตโกตาบาตูเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าของบรูไนในห้วงสมัยศตวรรษที่ 14 – 17 ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของการเดินเรือและการค้า

เด็กหญิงวิชาวีร์ สุมังคละพันธ์
โรงเรียนชุมชนบ้านท่าสองยาง จังหวัดตาก



พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีมาเลย์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ก่อสร้างขึ้นโดยกลุ่มบริษัทเชลล์ของเนเธอร์แลนด์ เพื่อมอบให้แก่รัฐบาลบรูไนเนื่องในโอกาสบรูไนได้รับเอกราชในปี ค.ศ. 1984 โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดีเสด็จฯ เปิดพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1988 ภายในพิพิธภัณฑ์ มีการจัดแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนบรูไนในยุคโบราณ ผ่านหมู่บ้านน้ำแบบดั้งเดิม ในช่วงปลายศตวรรษ ที่ 19 ถึง กลางศตวรรษที่ 20 มีการจัดแสดงเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมของหมู่บ้านน้ำ เกี่ยวกับงานหัตถกรรม อุตสาหกรรมภายในหมู่บ้าน การประกอบเรือ การมุงหลังคา การทำเครื่องทอง เครื่องเงิน เครื่องทองเหลือง และการทอผ้า และเทคโนโลยีดั้งเดิมของชนเผ่าชาติพันธุ์ที่พำนักอาศัยอยู่บนบก โดยมีการจัดแสดงแบบจำลองบ้านของชนเผ่าชาติพันธุ์เคอดายัน ตูซุน และมูรุท และกระท่อมของเผ่าปูนาน การทำอาหาร และงานหัตถกรรมต่าง ๆ 

เด็กชายสิงหราชย์ เลิศประสิทธิ์
โรงเรียนอนุบาลปัตตานี จังหวัดปัตตานี



มัสยิดสุลต่านโอมาร์ อาลี ไซฟุดเดียน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1958 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1967  ในสมัยของสมเด็จพระราชาธิบดีโอมาร์ อาลี ไซฟุดเดียน สมเด็จพระราชาธิบดี พระองค์ที่ 28 ซึ่งเป็นพระราชบิดาของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนองค์ปัจจุบัน มัสยิดดังกล่าวถือเป็นประจำรัชกาลสมเด็จพระราชาธิบดีโอมาร์ อาลี ไซฟุดเดียน ที่มีพระราชดำริให้สร้างมัสยิดหลวงขึ้นมา โดยมีสถาปนิกชาวอิตาลีเป็นผู้ร่างต้นแบบมาจากร่างแบบที่สมเด็จพระราชาธิบดีทรงออกแบบด้วยพระองค์เอง มัสยิดมีขนาดกว้าง 68.5 เมตร สูง 26 เมตร ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 เอเคอร์ และสามารถจุคนได้ประมาณ 3,000 คน มูลค่าการสร้างมัสยิดประมาณ 7.7 – 9.2 ล้านดอลลาร์บรูไน ซึ่งการออกแบบมัสยิดได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมโมกุลของอินเดีย นอกจากนี้บริเวณด้านนอกของมัสยิดมีการขุดสระขนาดใหญ่ และมีเรือพระที่นั่งจำลองของสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ที่ 5 แห่งบรูไน ในสมัยศตวรรษที่ 16 สร้างด้วยหินตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางใจสระ นับได้ว่ามัสยิดแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของบรูไนอีกแห่งหนึ่ง

เด็กชายอัศนัย หะมะ
โรงเรียนบ้านโคกตา จังหวัดนราธิวาส



สวนผึ้งตัสบี เป็นฟาร์มที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และมักจะมีนักเรียนมาเรียนรู้อยู่เสมอ ฟาร์มผึ้งแห่งนี้เลี้ยงผึ้งไว้ 8 ชนิด เป็นผึ้งที่ไม่มีเหล็กใน รสชาติของน้ำผึ้งจะมีรสเปรี้ยวหรือเปรี้ยวอมหวาน ซึ่งรสชาติที่แตกต่างกันนี้เกิดจากเกสรดอกไม้ที่ผึ้งไปดูดน้ำหวานจากดอกไม้ต่างชนิดกัน พวกเราได้ทำการเก็บน้ำผึ้งด้วยตัวเอง วิธีการคือ นำไม้ปลายแหลมจิ้มไปที่รังผึ้งเพื่อให้เปิดออก แล้วนำไซริงค์ (Syringe) ดูดน้ำผึ้งออกมาใส่ในขวดแก้วแล้วรับประทานได้เลย ซึ่งประโยชน์ของน้ำผึ้ง คือ สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีแก่รางกายและช่วยในระบบย่อยอาหาร 

ผมประทับที่ได้มาที่แห่งนี้ ได้เก็บน้ำผึ้ง ด้วยตนเอง และได้เห็นผึ้งที่ไม่มีเหล็กในเป็นครั้งแรกในชีวิต

เด็กชายพิจิตร ผดุงศิริ
โรงเรียนพญาไท กรุงเทพมหานคร



สวนสาธารณะตาเส็กลามา เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในบรูไน และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของคนบรูไน ซึ่งจะใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์มาใช้เวลากันที่นี่  สวนสาธารณะแห่งนี้มีจุดเด่น คือ มีน้ำตกที่สวยงามและเย็นสบาย มีต้นไม้ที่ร่มรื่น และยังมีการปลูกดอกไม้ประจำชาติ คือ ดอกซิมปอร์ (Simpor) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดอกส้านชะวา (Dillenia) ดอกไม้ประจำชาติของบรูไน ซึ่งมีต้นใหญ่และสวยงามมาก นอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจแล้ว คนบรูไนจะนิยมมากออกกำลังกายกันที่นี่ ด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้ง ปืนผาจำลอง และรำมวยจีน

เด็กหญิงมุขมณี นรชาญ
โรงเรียนบ้านโคกทุ่งน้อย จังหวัดหนองบัวลำภู



ตลาดตามูเกียงเกห์ (Tamu Kianggeh Market) เป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในบรูไน ตั้งอยู่ที่ถนน Sungai Kianggeh เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 6 โมงเช้า – 6 โมงเย็น บรรยากาศเหมือนตลาดบ้านเรา มีแผงค้าที่เป็นระเบียบและสะอาด เงียบสงบ มีของขายหลากหลาย ทั้งอาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา และของแห้ง เช่น ปลาแห้ง กุ้งแห้ง  พืชผักท้องถิ่น ผลไม้หน้าตาแปลก ๆ ไม่เคยเห็นมาก่อน มองอะไรก็ตื่นเต้นแปลกตาไปหมด พ่อค้าแม่ค้าที่นี่ใจดี  ยิ้มแย้ม ที่มีของให้เลือกหลากหลายและราคาไม่แพง นอกจากอาหารมีของที่ระลึกที่เป็นงานฝีมือของคนท้องถิ่นขายด้วย  

เด็กหญิงจิดาภา เพชรทองด้วง
โรงเรียนอนุบาลป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง



อัมบูยัต (Ambuyat) เป็นอาหารพื้นเมืองและอาหารประจำชาติของบรูไน วิธีการทำคือคนบรูไนจะนำต้นปาล์มสาคูขูดมาขูดเพื่อให้ได้แป้ง แล้วนำน้ำร้อนเทใส่จนได้แป้งจนเหนียวข้นคล้ายแป้งเปียก ตัวแป้งอัมบูยัตจะไม่มีรสชาติแต่ความอร่อยจะอยู่ที่การจิ้มกับซอสผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ซึ่งซอสที่นิยม ทานคู่คือ ซัมบัลเตอราซี หรือน้ำพริกทุเรียนดอง  นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงคือ พริก น้ำตาล เกลือ มะนาว ถั่วงอก และมักจะทานคู่กับ ผัดใบมัน ผักบุ้งผัดกะปิ ปลาย่างและเนื้อย่าง  วิธีการรับประทานคือ นำจันดัส ซึ่งคล้ายตะเกียบ แต่ปลายข้างหนึ่งติดกัน จุ่มแล้วม้วนก้อนแป้งกินเป็นคำ ๆ จิ้มกับซอส ทั้งนี้ การรับประทานอัมบูยัตให้ได้รสชาติต้องรับประทานตอนร้อน ๆ  และกลืนเลยทันทีโดยไม่ต้องเคี้ยว ผมได้ลองรับประทานแล้วรู้สึกอร่อยเป็นอย่างมาก

เด็กชายปฏิกาญจน์ หลุยจำวัล
โรงเรียนสันป่าตอง (สุวรรณราษฎร์วิทยาคาร) จังหวัดเชียงใหม่

เล่าเรื่อง-เรียนรู้

คณะยุวทูตความดีเยือนฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น

วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) หนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในฟุกุโอกะ เป็นที่ประดิษฐาน “นันโซอินไดบุตสึ (Nanzoin Daibutsu)” พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวถึง 41 เมตร ความสูง 11 เมตร และหนักถึง 300 ตัน ถูกแกะสลักจากทองสัมฤทธิ์ชิ้นเดียวแล้วหล่อโดยใช้แบบหล่อไล่ขี้ผึ้ง มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเดียวกับรูปปั้นพระใหญ่ที่เมืองนาระและคามาคูระ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2538 เชื่อว่าสร้างขึ้นเพื่อปกป้องชาวฟุกุโอกะจากภัยธรรมชาติและขึ้นชื่อเรื่องการขอพรโชคลาภอีกด้วย

คณะยุวทูตความดีเยือนสหพันธรัฐรัสเซีย

จัตุรัสแดง ลานกว้างทรงจัตุรัสที่สวยงามที่สุดในโลก ตั้งอยู่กลางเมืองของกรุงมอสโก คำว่า เรด (Red) ในภาษารัสเซียดั้งเดิมมีความหมายว่า สวยงาม มีสถานที่สำคัญอยู่บริเวณใกล้เคียงโดยรอบ คือ มหาวิหารเซนต์เบซิล อนุสรณ์สถานเลนิน ห้างสรรพสินค้ากุม เป็นต้น

คณะยุวทูตความดีเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์

สาธารณรัฐสิงคโปร์ ชื่อเดิม เกาะเทมาเส็ก ตั้งอยู่ปลายสุดของช่องแคบมะละกา เป็นเมืองท่าเรือขนาดใหญ่และแหล่งค้าขายของผู้คนจากจีน โปรตุเกส มาเลเซีย เป็นต้น สิงคโปร์ขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติจึงต้องหาสิ่งอื่นทดแทน นั่นคือ คน หรือทรัพยากรมนุษย์ มาเป็นกำลังสำคัญนำพาประเทศให้ก้าวหน้า นายลีกวน ยู ผู้มีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลในการพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมกับชาติตะวันตก รวมทั้งภาษาในการติดต่อและอาหารที่ถูกถ่ายทอดไปตามเชื้อชาติและวัฒนธรรม ก่อให้เกิดเป็นอัตลักษณ์ของสิงคโปร์ ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เด็กหญิงนภัสสร คนดี โรงเรียนมุกดาลัย จังหวัดมุกดาหาร ท่านอุปทูตทวีเกียรติ พาคณะยุวทูตความดีนำชมสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ สิงคโปร์  มีพื้นที่ขนาด 11 ไร่ ข้างในสถานทูตมีความใหญ่โตสวยงามมาก มีคุณค่าในทางประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ทางการทูต การค้า และวัฒนธรรมไทย – สิงคโปร์ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน หนูภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สถานทูตของไทย ตั้งอยู่บนถนนออร์ชาร์ด (Orchard) แหล่งศูนย์การค้าใจกลางเมืองสิงคโปร์ และเป็นสถานทูตต่างประเทศเพียงแห่งเดียวที่ครอบครองที่ดินบนถนนหลักสายนี้ เด็กหญิงลลิตภัทร ศรีเทพ โรงเรียนอนุบาลยะลา จังหวัดยะลา อนุสาวรีย์ช้างสำริด อนุสาวรีย์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 14 […]

keyboard_arrow_up