มณฑลยูนนาน มีเมืองเอก คือ นครคุนหมิง มีพื้นที่ 394,000 ตารางกิโลเมตร ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศจีน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่ราบสูง มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 44,150,000 คน จัดเป็นมณฑลที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์มากที่สุดของจีน โดยมีมากถึง 26 ชนชาติ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ของมณฑลเป็นชาวฮั่น และมีชนกลุ่มน้อยอีก 25 ชนชาติ เช่น จ้วง (Zhuang) ฮุย (Hui) แม้ว (Miao) ทิเบต (Zang) เย้า (Yao) ไป๋ (Bai) ว้า (Wa) นาซี (Naxi) ตูหลง (Dulong) ลีซู (Lisu) ปูลาง (Bulang) เป็นต้น อีกทั้งมณฑลยูนนานมีสภาพภูมิอากาศเย็นสบาย ฤดูหนาวอากาศไม่หนาวจัดและฤดูร้อนอากาศไม่ร้อนจัด อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ระหว่าง 15 -18 องศาเซลเซียส ซึ่งตอนที่ผมไปเยือนอากาศก็อยู่ที่ 6 -13 องศา ซึ่งมีความเย็นสบายเป็นอย่างมาก
เด็กชายเหวินฟง ล็อค
โรงเรียนสฤษดิเดช จังหวัดจันทบุรี
พิพิธภัณฑ์ยูนนาน ที่จัดแสดงเรื่องราวต่าง ๆ ของจีน ตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ยุคกำเนิดมนุษย์ที่มีการใช้ไฟเพื่อให้ร่างกายมีความอบอุ่น และนำหินมาทำเป็นอาวุธใช้ในการล่าสัตว์จนถึงยุคที่มีการรวมตัวกันของมนุษย์จนเกิดเป็นชนเผ่าต่าง ๆ มีการเริ่มใช้เหล็กมาทำเป็นอาวุธ ชุดเกราะ เครื่องประดับต่าง ๆ ใช้ในการสงครามเพื่อขยายพื้นที่ของชนเผ่าตนเองและรวบรวมชนเผ่าอื่น ๆ เข้ามา จนรวมกันเป็นประเทศจีน จึงทำให้ประเทศจีนมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ต่างกันออกไป รวมถึงยุคที่มีการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ที่ในประเทศจีน ซึ่งมีการค้นพบพระพุทธรูปในที่ต่าง ๆ และเรื่องราวยุคประวัติศาสตร์ของจีนตั้งแต่สมัยราชวงศ์ จนถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปัจจุบัน
เด็กชายชติพงษ์ กิมเตียว
โรงเรียนอนุบาลสกลนคร จังหวัดสกลนคร
พิพิธภัณฑ์ยูนนาน จัดแสดงโบราณวัตถุจำพวกสำริด อาทิ กลองสำริดที่มีลายแกะสลักรอบกลองที่ใหญ่ที่สุดของจีน ภาชนะสำริดสำหรับใส่ของที่ฝาด้านบนมีรูปปั้นหลากหลายแบบ อาวุธต่าง ๆ อุปกรณ์ทางการเกษตร และสำริดรูปวัวถูกเสืองับหาง อันเป็นสัญลักษณ์ของการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ประกอบด้วยแม่วัว ลูกวัว และเสือ ซึ่งแม่วัว หมายถึง ความแก่ ลูกวัว คือ การเกิด และเสืองับหางแม่วัว คือ การเจ็บและความตาย โดยสำริดนี้ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติและโบราณวัตถุที่มีค่าทางวัฒนธรรมของยูนนาน
เด็กหญิงวิมลสิริ นามสิงห์
โรงเรียนอุบลวิทยาคม จังหวัดอุบลราชธานี
หมู่บ้านชนชาติยูนนาน เป็นหมู่บ้านจำลองที่เรียนรู้ชนเผ่าต่าง ๆ ซึ่งในประเทศจีนมี 56 ชนเผ่า ในมณฑลยูนนานมี 26 ชนเผ่า เป็นมณฑลที่มีชนเผ่ามากที่สุดในประเทศจีน หนูได้เยี่ยมชมชนเผ่าหว่าในอดีตเป็นชนเผ่าที่จะนำผู้ชายที่มีผมยาวและหนวดเครามาบูชายันต์ ต่อมาชนเผ่ามีการปรับเปลี่ยนใช้หัวควายแทน และชนเผ่าทิเบต หนูได้เห็นก้อนหิน ที่เรียกว่า Marnyi Stone เป็นหินที่แกะสลักบทสวดของทิเบต ซึ่งมีความหมายว่าให้โลกนี้สงบสุข และพวกเราได้เข้าไปยังพระราชวังโปตาลา (จำลอง) เพื่อไหว้พระอีกด้วย
เด็กหญิงชลกานต์ ราชบุตร
โรงเรียนชุมชนบ้านถ่อน จังหวัดหนองคาย
วัดหยวนทง เป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเมืองคุนหมิง สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618 – ค.ศ.907) เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี เป็นวัดที่ผสมผสานทั้งวัดจีน พม่า ทิเบต และไทย
วัดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาถึง 3 นิกาย ได้แก่ พระสังฆจาย จะเป็นพระองค์แรกที่ยิ้มและต้อนรับผู้คนที่เข้ามาไหว้พระ เบื้องหลังของพระสังฆจายจะมีพระอยู่องค์หนึ่งที่เรียกว่า อุยโถว เป็นพระที่มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของวัดในส่วนของทิเบต มีวัดวชิรญาณ ซึ่งมีพระพุทธรูปธิเบตประดิษฐานอยู่ และส่วนด้านหลังสุดของวัด เป็นที่ตั้งของโบสถ์ไทย ประดิษฐาน พระพุทธชินราชของไทย ซึ่งจำลองมาจากพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างไทย-จีน และวัดหยวนทง ยังได้มีการติดต่อประสานงานกับจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย อีกด้วย
เด็กหญิงธีรดา นนทะชาติ
โรงเรียนอนุบาลศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
ตำหนักทองสำริดของอู๋ซานกุ้ย อู๋ซานกุ้ย เป็นแม่ทัพของราชวงค์หมิง เป็นผู้ที่เปิดประตูเมืองให้พวกแมนจูเข้ามาตีเมือง จนทำให้พวกแมนจูสามารถตั้งราชวงค์ชิงได้ และต่อมาอู๋ซานกุ้ยได้รับการแต่งตั้งให้ปกครองมณฑลยูนนาน ตำหนักทองของอู๋ซานกุ้ย สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1671 สร้างด้วยทองสำริดหนัก 250 ตัน มีกำแพงและป้อมล้อมรอบตำหนักเหมือนกับกำแพงที่ล้อมรอบเมือง ภายในตำหนักมีกระบี่เจ็ดดาว น้ำหนัก 12 กิโลกรัม และดาบกายสิทธิ์น้ำหนัก 20 กิโลกรัม ถูกเก็บรักษาไว้ในศาลาที่เชื่อว่าทั้งสองเป็นอาวุธประจำกายของอู๋ซานกุ้ย
เด็กชายนิติภูมิ คูหาเรืองรอง
โรงเรียนวัดบ้านหนองบัวศาลา จังหวัดนครราชสีมา
อุทยานป่าหิน หรือชื่อจีนที่เรียกว่า ฉือหลิน ฉือ แปลว่า หิน หลิน แปลว่า ป่า เป็นป่าหินที่ใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,762 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 40,000 ไร่ แต่เป็นพื้นที่หิน 12,000 ไร่ เดิมเคยเป็นทะเลมาก่อน เพราะมีการขุดพบซากฟอสซิลที่เป็นสัตว์น้ำ รูปร่างหินที่พบ มีรูปร่างแตกต่างกันไป มีรูปร่างคล้ายสัตว์แต่ละชนิด เช่น ควายนอน กระทิง ไดโนเสาร์ นกอินทรีย์กลางปีก หน้าลิง และหัวใจ ซึ่งรูปร่างพวกนี้เกิดจากลมและน้ำฝนกัดเซาะ
เด็กหญิงปารวตี คำลือฤทธิ์
โรงเรียนอนุบาลบ้านแพง จังหวัดนครพนม
สวนสาธารณะทะเลสาบฉุ่ยหู ฉุ่ยหู แปลว่า สระมรกต เป็นสวนสาธารณะที่ชาวคุนหมิงใช้ออกกำลังกาย และพักผ่อนหย่อนใจ สร้างขึ้นอยู่ใจกลางนครคุนหมิง เพราะนครคุนหมิงมีอุณหภูมิต่ำ จึงทำให้อากาศหนาวเย็นและแห้ง จึงสร้างทะเลสาบขึ้นมา เพื่อเพิ่มความชื้นให้แก่อากาศ และในช่วงฤดูหนาวจะมีนกนางนวลอพยพจากไซบีเรียมาอาศัยอยู่ที่ทะเลสาบแห่งนี้ ผู้คนก็จะพากันมาดูนกนางนวล ให้อาหารและถ่ายรูป
เด็กชายพันธุ์ธัช ภูผาใจ
โรงเรียนอนุบาลนครพนม จังหวัดนครพนม
กั้วเฉียวหมี่เสี่ยน หรือ ก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพาน ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของมณฑลยูนนาน เพราะมีความอร่อยเป็นอย่างมาก ชุดของก๋วยเตี๋ยวประกอบด้วย เส้นที่คล้ายกับขนมจีนของไทยเรา เนื้อหมู แฮมยูนนาน และผักต่าง ๆ โดยมีวิธีทำ คือ นำเนื้อสัตว์ ผัก พร้อมเส้นลงไปในน้ำซุป มีรสชาติที่เค็ม หวาน กลมกล่อมกำลังดี อีกทั้งยังมีเรื่องเล่าที่เป็นตำนาน คือ มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งสามีจะต้องไปสอบจอหงวน จึงต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ ทุกวันภรรยาจะทำอาหารไปส่งให้ ซึ่งต้องข้ามสะพานไป เมื่อไปถึงสามี อาหารมักเย็นก่อนเสมอ ภรรยาจึงคิดหาวิธีแก้โดยใส่น้ำมันไก่ลงไปในน้ำ เพื่อให้น้ำมันคลุมเหนือน้ำชุป ทำให้น้ำมีความร้อนคงอยู่ และสุดท้ายสามีก็สอบเป็นขุนนางได้สำเร็จ
เด็กชายเมธวิชญ์ จงมีความสุข
โรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร