พิพิธภัณฑ์มหาตมคานธี (Gandhi smriti Museum) ตั้งอยู่ที่ใจกลางกรุงนิวเดลี ภายในประกอบด้วยบ้านพักที่มหาตมคานธีเคยอาศัยอยู่ ก่อนที่จะถูกลอบสังหารในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2491 ในพิพิธภัณฑ์นำเสนอประวัติและเรื่องราวต่าง ๆ ในการเรียกร้องเอกราชของอินเดีย จากเครือสหราชอาณาจักรของมหาตมคานธี ทั้งมีห้องจัดแสดงรูปปั้นจำลองชีวิตของมหาตมคานธีรวมถึงของใช้ส่วนตัว ภาพถ่าย และเอกสารต่าง ๆ โดยรัฐบาลอินเดียถือกรรมสิทธิ์ครอบครองบ้านดังกล่าว และเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ พ.ศ.2516 เป็นต้นมา
เด็กหญิงชลิตา ทิวสระแก้ว
โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
กุตับมีนาร์ (Qutab Minar) หรือ ปฤถวีสตัมภ์ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของกรุงนิวเดลี เป็นถาวรวัตถุที่มีความงามได้สัดส่วน มีลักษณะเป็นหอสูง ภายนอกหอคอยสร้างขึ้นจากหินทรายสีแดง และได้สร้างเป็นลูกฟูกขึ้นไปอย่างเกลี้ยงเกลา ซึ่งแต่ละลูกฟูกจารึกเป็นอักษรอาระบิกจากบทสวดในพระคัมภีร์โกหร่าน โดยมีความสูง 238 ฟุต แบ่งออกเป็น 5 ชั้น และมีบันไดขึ้นไป 379 ขั้น ในปัจจุบันได้ปิดห้ามขึ้นไป
เด็กหญิงชาลิสา โปษยะนันทน์
โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ กรุงเทพมหานคร
สุสานทัชมาฮาล (Taj Mahal) ตั้งอยู่ในเมืองอัคราริมฝั่งแม่น้ำยมุนา เป็นสุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1648 และสร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1648 รวมเวลาการก่อสร้าง 17 ปี ในส่วนของการประดับตกแต่งได้ใช้เวลาอีก 5 ปี รวมทั้งสิ้น 22 ปี จึงเสร็จเรียบร้อยใช้คนงาน ในการก่อสร้างจำนวน 2 หมื่นคน และได้ใช้งบประมาณการก่อสร้างถึง 30 ล้านรูปี ทัชมาฮาลถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์นามว่าพระเจ้าชาห์ เจฮัน แห่งราชวงค์โมกุล เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้มุมตัช มาฮาล พระมเหสี โดยหลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากหลายประเทศ ในภายหลังโอรังเซบ ราชโอรสของพระเจ้าชาห์ เจฮัน ได้นำพระศพของพระบิดามาประดิษฐานไว้เคียงข้างพระศพของมุมตัช ในปัจจุบันนี้ ทัชมาฮาลยังถูกจัดเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
เด็กชายพงศ์พิสุทธิ์ ปุรินัย
โรงเรียนอนุบาลศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
ประตูเมืองอินเดีย (India Gate) เป็นอนุสรณ์มีความมุ่งหมายให้เป็นสถานที่รำลึกถึงทหารที่พลีชีพในสงครามของอินเดีย ส่วนบนได้สร้างเป็นอนุสรณ์แก่ทหารนิรนาม ระหว่างประตูมีกระถางขนาดใหญ่จุดไฟที่ไม่เคยดับ มาตั้งแต่ ค.ศ.1932
เด็กชายพุทธิพล เพ็ญจันทร์
โรงเรียนอนุบาลยะลา จังหวัดยะลา
ป้อมอักรา (Agra Fort) ตั้งอยู่เมืองอัครา ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดยเดิมทีนั้นป้อมอัครานั้นเป็นเพียงป้อมปราการทางการทหารประจำเมือง ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอัคบาร์ และได้ถูกสร้างต่อเติมกันมาจนถึงรุ่นหลาน คือ พระเจ้าชาห์ เจฮัน แห่งราชวงค์โมกุล ซึ่งในเวลาต่อมาป้อมอักราได้เปลี่ยนจากป้อมปราการทางการทหารมาเป็นพระราชวัง และถูกใช้เป็นที่คุมขังกษัตริย์ชาห์ เจฮัน เนื่องจากว่าพระองค์ใช้เงินสิ้นเปลืองในการสร้างทัชมาฮาล
เด็กชายภคินทร์ แก้วมาตย์
โรงเรียนอนุบาลนครพนม จังหวัดนครพนม
วัดโภคัลพุทธวิหาร (Bhogal Jangpura) เป็นวัดไทยที่อยู่ในกรุงนิวเดลี เป็นที่ประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาพุทธ เพื่อให้คนไทยหรือคนนับถือศาสนาพุทธได้เข้ามาร่วมปฏิบัติธรรม และปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา
เด็กหญิงสุพิชญา ตรีสมุทร
โรงเรียนธัญญสิทธิศิลป์ จังหวัดปทุมธานี
เสาอโศก (Ashokan Edict, East of Kailash) ตั้งอยู่ในเขตไกรลาศ เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมา เพื่อแสดงธรรมมหาสติปัฏฐานสูตร โดยตรงจุดที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมเทศนานั้น เป็นก้อนหินสีแดงขนาดย่อม ในปัจจุบันเสาอโศก ได้อยู่ในความดูแลของกองโบราณคดี กระทรวงวัฒนธรรมของอินเดีย
เด็กหญิงอภิสรา สุขาทิพย์
โรงเรียนวัดดอนทอง จังหวัดฉะเชิงเทรา
ป้อมแดง (Red Fort) หรือชาวอินเดียเรียกกันว่า “ลา ศิลา” สร้างขึ้นจากหินทรายแดง เป็นพระราชวังของกษัตริย์ชาห์ เจฮัน แห่งราชวงศ์โมกุล ในปัจจุบันป้อมแดงได้ถูกใช้ประกอบพิธีฉลองเอกราชของอินเดีย ในวันที่ 15 สิงหาคม ของทุกปี
เด็กหญิงอรัญรัตน์ สมัครสมาน
โรงเรียนบ้านท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
อินเดียเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการกินที่หลากหลาย คนอินเดียจะไม่เน้นการบริโภคเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อวัวและเนื้อหมู อาหารที่ทานส่วนใหญ่เป็นมังสวิรัติ อาหารหลักที่ชาวอินเดียรับประทาน คือ นานปูรี ซึ่งเป็นแป้งทอด อาหารทั่วไปมีรสจัด เพราะอุดมไปด้วยเครื่องเทศ และคนอินเดียจะใช้มือในการรับประทานอาหาร
เด็กหญิงเจนจิรา สุภาดี
โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา