พวกเราได้เรียนรู้งานของสถานเอกอัครราชทูต โดยท่านทูตดุสิต เมนะพันธุ์ ได้ให้พี่นักการทูต นำพวกเราชมสถานทูตเรียนรู้การทำงานของสถานทูต เช่น การช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน การทำวีซ่า การทำบัตรประชาชน และการทำหนังสือเดินทาง (Passport) อีกทั้งได้เข้าร่วมในกิจกรรมกงสุลสัญจร จัดโดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ คูเวต ซึ่งได้ไปเยี่ยมพี่แรงงานไทยประมาณ 200 คน ของบริษัท Hyundai Kogas Company (HDKC) ที่แคมป์ที่พักคนงานในเขต Mina Al Zour ห่างจากกรุงคูเวตซิตี้ประมาณ 75 กม. โดย สอท. ได้จัดหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการด้านหนังสือเดินทาง และได้ให้คำปรึกษาคำแนะนำต่าง ๆ เกี่ยวกับสิทธิพื้นฐานและสิทธิประโยชน์ที่แรงงานควรทราบ และจัดให้มีการตรวจสุขภาพพื้นฐานแก่คนงานไทย โดยทีมแพทย์และพยาบาลจากฟิลิปปินส์ และอินเดีย และทาง สอท. ได้นำอาหารไปเลี้ยงพี่ ๆ แรงงานไทย ซึ่งบังเอิญเป็นอย่างมากที่ผมได้เจอพี่ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน พี่เขาบอกว่าแคมป์ที่นี่ดีมาก มีที่พัก มีอาหารให้ทาน คิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัว แต่ก็ต้องหางานเก็บเงินเลี้ยงชีพต่อไป ผมเลยบอกให้พี่เขาให้ต่อสู้กับโชคชะตา ผมดีใจมากที่ได้มาพบปะกับพี่น้องชาวไทยในต่างประเทศและรู้สึกอบอุ่นใจเป็นอย่างมาก
เด็กชายวรโชติ ทวีกิจเจริญชัย
โรงเรียนธัญญสิทธิศิลป์ จังหวัดปทุมธานี
Kuwait Tower เป็นหอคอยสูง 3 หอ ประกอบด้วย หอคอยหลัก สูง 187 เมตร ประกอบด้วยหอ 2 ชั้น คือหอครึ่งล่างเป็นหอเก็บน้ำ ส่วนหอครึ่งบนเป็นภัตตาคาร ร้านคาเฟ่ ห้องรับแขก และห้องโถง หอคอยที่สอง มีความสูง 147 เมตร ใช้สำหรับเป็นหอเก็บน้ำ และหอคอยที่สาม คือ หอควบคุมไฟฟ้า สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1971 – 1976 และเปิดใช้เมื่อ ค.ศ. 1977 พวกเราได้ขึ้นไปชมเมืองจากหอที่หมุนได้ 360 องศา ซึ่งหอที่ใช้ชมเมืองนั้นมี 120 ชั้น โดยใช้เวลาขึ้นลิฟต์เพียงครึ่งนาที
เด็กหญิงโซเฟีย บือซา
โรงเรียนบ้านสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
Grand Mosque มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศคูเวต สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1949 – 1986 มีพื้นที่ครอบคลุม 45,000 ตารางเมตร ซึ่งตัวอาคารคลุมพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ใช้ทำพิธีละหมาด สามารถจุคนได้ถึง 10,000 คน ภายในมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีโคมไฟแชนดาเรีย ที่ทำมาจากคริสตัล ตามผนังประดับด้วยยิปซัมพรมปักด้วยมือ ประตูและหน้าต่างก็ถูกแกะสลักทั้งหมด โดยทุกด้านมีประตูไม้สักและไฟส่องสว่างจากหน้าต่าง 144 บาน ในการเข้าภายในผู้หญิงจะต้องแต่งกายที่ยาวมิดชิดเรียบร้อย ในฐานะที่ผมนับถือศาสนาอิสลาม ผมดีใจเป็นอย่างมากที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มาเยี่ยมชมมัสยิดแห่งนี้ และผมมีความภาคภูมิใจที่ได้นำศิลปะแม่ไม้มวยไทย ไปเผยแพร่ให้กับคนชาวคูเวตได้รู้จัก ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
เด็กชายฟารฮานคาน โมฮัมเม็ดซาริน
โรงเรียนบ้านสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
Kuwait Oil Company (KOC) บริษัทน้ำมันของรัฐบาลคูเวต ซึ่งมีน้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ใน 1 วินาที สามารถขุดเจาะน้ำมันได้มากถึง 37 ตัน ภายใน KOC มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการขุดพบน้ำมัน เกิดจากการที่ประเทศอิรักได้บุกคูเวต ทำให้เกิดการขุดพบน้ำมัน ในปี 1938 การจำลองการเกิดและการผลิตน้ำมัน วิวัฒนาการของการผลิตน้ำมันในแต่ละปี และประโยชน์ของน้ำมันที่นำไปใช้ในด้านกีฬา สุขภาพความงาม และเกษตรกรรม
เด็กชายวรัชญ์ วัฒนานิกร
โรงเรียนอนุบาลปัตตานี จังหวัดปัตตานี
Heritage Village หมู่บ้านโบราณจำลองชีวิตความเป็นอยู่ของคูเวต ได้สัมผัสกับบรรยากาศของบ้านในอดีต การอยู่อาศัยในทะเลทราย สัตว์เลี้ยงในทะเลทราย การแต่งกาย อาหาร สมุนไพร และพวกเรายังได้ขี่อูฐกัน ทั้งนี้พวกเราได้เยี่ยมชม Al Rai Media Group Company สถานีโทรทัศน์และสำนักพิมพ์ภาษาอารบิกอันดับหนึ่งของคูเวต และมีโอกาสร่วมออกรายการโทรทัศน์ โดยได้ร้องเพลง Watani Kuwait เปิดรายการด้วย
เด็กหญิงอลิน อากาฌา อามิน
โรงเรียนอนุบาลยะลา จังหวัดยะลา
คนคูเวต เป็นคนยิ้มง่าย มีอัธยาศัย มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ตรงต่อเวลา พยายามพูดคุยซักถาม มีระเบียบวินัย ไม่เสียงดัง เคร่งครัดในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และศาสนาอิสลาม แต่วิถีชีวิตของผู้คนคูเวต ถือว่าเป็นประเทศที่ค่อนข้างเปิด ผู้หญิงแต่งตัวทันสมัย ซึ่งการคลุมผ้าก็ยังมีให้เห็นอยู่เหมือนกัน และสามารถขับรถได้ ผู้คนใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายมีระเบียบวินัยเพราะคูเวตเป็นสังคมค่อนข้างสงบ จึงต้องพยายามรักษาระเบียบวินัย ไม่รบกวนความสงบของผู้อื่นในที่สาธารณะ และคนคูเวตมีการศึกษาที่ดี เพราะรัฐบาลให้เรียนฟรีออกค่าใช้จ่ายเล่าเรียนให้ทั้งหมด และมีเงินเดือนรัฐบาลสนับสนุนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับชาวคูเวต คนคูเวตจึงถือว่า มีวิถีชีวิตที่ดีมากสำหรับผม
เด็กชายพีรภัทร์ รามจันทร์
โรงเรียนบ้านควนประ จังหวัดนครศรีธรรมราช